การประกันภัย คืออะไร
การประกันภัย คือ การทำสัญญา ที่ผู้เอาประกันภัย โอนการเสี่ยงภัยของตน ไปยังผู้รับประกันภัย โดยที่ผู้เอาประกันจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้ผู้รับประกันภัย เรียกว่า เบี้ยประกัน และเมื่อเกิดเหตุหรือภัยต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในสัญญา ผู้รับประกันก็จะจ่ายสินไหมทดแทน หรือเงินผู้เอาประกันภัย เป็นการทดแทนความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยได้รับ
การประกันภัยรถยนต์ก็คือ การประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ซึ่งได้แก่
- ความสูญเสีย หรือความเสียหายต่อรถยนต์
- ความเสียหายที่รถยนต์ได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอก ไม่วาจะเป็นความบาดเจ็บทางร่างกาย และความเสียหายของทรัพย์สิน รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถ หรือกำลังขึ้น หรือลงจากรถยนต์ที่ได้ทำประกันเอาไว้
คุ้มครองอย่างไร
การทำประกันภัยรถยนต์ กับบริษัทประกันภัย จะมีลักษณะของการคุ้มครองอยู่ 3 ประเภท
1. ความคุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก หรือการคุ้มครองประเภท 3- การทำประกันภัยประเภทนี้ให้ความคุ้มครองต่อกรณีเหล่านี้
- ความบาดเจ็บพร้อมมรณะของบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีแพ่ง
- ความบาดเจ็บพร้อมมรณะของบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีแพ่ง
- ความเสียหาย หรือสูญหายของตัวรถยนต์ที่เอาประกันจากภัยทุกชนิด เช่น รถยนต์ถูกโจรกรรม การจลาจล การนัดหยุดงาน การก่อการร้าย การกระทำมุ่งร้าย ไฟไหม้ ระเบิด และภัยจากธรรมชาติ ยกเว้น การชน หรอคว่ำ การลักทรัพย์โดยลูกจ้าง การลักทรัพย์ส่วนควบ หรืออุปกรณ์
ประกันภัยรถมีกี่ประเภท
การประกันภัยรถยนต์ในบ้านเรานั้นแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. การประกันภัยตามภาคบังคับของกฎหมาย พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หรือที่เราเรียกว่า พ.ร.บ. ประกันภัยบุคคลที่ 3 กฎหมายฉบับนี้ทำให้เจ้าของรถทุกคันต้องทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยตามที่กฎหมายระบุไว้
2.การทำประกันภัยรถยนต์อีกประเภทหนึ่งที่ทำตามความสมัครใจของเจ้าของรถ โดยการทำประกันภัยแบบนี้ตจะแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ 2 ประเภท คือ- ประกันภัยประเภท 1 บริษัทจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวรถยนต์ หรืออุปกรณติดประจำรถ รวมถึงความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ประกันภัยประเภท 3 บริษัทจะให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเท่านั้น ส่วนตัวรถคันที่เอาประกันภัยผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง
กรณีที่ประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบ
- เมื่อผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือมี แต่ว่าใบอนุญาตหมดอายุเกิน 180 วัน หรือถูกตัดสิทธิ์ตามกฎหมาย
- ผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรายาเมาถึงขนาดไม่สามารถควบคุมรถยนต์ได้
- ผู้ขับขี่มีความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เช่นขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง
- ผู้ขับขี่ใช้รถนอกอาณาเขตที่คุ้มครอง
- เมื่อผู้ขับขี่ใช้รถไปในทางที่ผิดกฎหมาย
- ผู้ขับขี่ใช้รถในการแข่งขัน หรือทดลองความทนทาน หรือความเร็วทางกำลัง
- ผู้ขับขี่ใช้รถในการลากจูง หรือผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลางจูง หรือถูกผลักดันได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัทด้วย
- การใช้รถโดยบุคคลของอู่ เมื่อรถยนต์ได้ถูกส่งมอบให้อู่ทำการซ่อม เว้นแต่การซ่อมนั้น บริษัทเป็นผู้สั่ง หรือการยินยอม
ข้อควรระวัง
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรถยนต์คันเอาประกันภัย เช่น เปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ เปลี่ยนหมายเลขทะเบียน หรือมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใด ๆ ที่ทำให้สภาพของรถยนต์เปลี่ยนลักษณะไป ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งบริษัทรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษรทันที ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ไปตกลงยินยอมเสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใด โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเด็ดขาด เลือกประกันภัยอย่างไรดี
- ความรับผิดชอบต่อความบาดเจ็บ เราไม่มีทางรู้ว่าหากเผอิญขับรถไปชนคนตาย เราจะรับผิดชอบถึงแค่ไหน จำนวนเงินเอาประกันภัยต้องให้สูง ไม่ใช่ 5,000 บาท หรือ 10,000 บาทต่อคน เพราะว่าเงินจำนวนขนาดนี้เจ้าของรถสามารถรับผิดชอบเองได้
- ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก จำนวนเงินเอาประกันภัยต้องสูงไว้เหมือนกัน สมัยนี้รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีราคาเกิน 500,000 บาทขึ้นไป
- ความเสียหายต่อรถยนต์เนื่องจากไฟไหม้ หรือลักทรัพย์ ภัย 2 อย่างนี้จะทำให้รถยนต์เสียหายเต็มราคารถได้
- ความเสียหายต่อรถยนต์เนื่องจากการชน ความคุ้มครองอันนี้เบี้ยประกันภัยค่อนข้างสูง หากเราขับเองและใช้ความระมัดระวัง เราจะประหยัดได้ โดยซื้อแบบที่เรายอมรับผิดส่วนแรกของความเสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่ง การประกันภัยแบบนี้ทำให้มีโอกาสได้รับส่วนลดสำหรับการเรียกร้องค่าเสียหายดีขึ้น