FINANCE
การจัดไฟแนนซ์ หรือการเช่าซื้อเป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว โดยจะใช้กับทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน รถยนต์ เป็นต้น
ในปัจจุบันนี้มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเช่าซื้อประเภทนี้เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ
การจัดไฟแนนซ์เช่าซื้อรถยนต์มีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. การเช่าซื้อรถยนต์ใหม่จากตัวแทนจำหน่ายโดยตรง
2. การเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้ว หรือที่เรียกว่ารถมือสอง
สำหรับการซื้อรถยนต์ใหม่จากตัวแทนจำหน่ายทั่วไปแล้ว ทางตัวแทนจำหน่ายจะเป็นผู้จัดหาบริษัทรับเช่าซื้อให้แก่ลูกค้าที่ต้องการจะซื้อรถอยู่แล้ว และถ้าเป็นการซื้อรถมือสอง ผู้ซื้ออาจจะต้องติดต่อกับทางบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์เอง หรืออาจจะขอให้ทางเต๊นท์ที่ขายรถยนต์ทั่วไปจัดการจัดไฟแนนซ์ให้ ซึ่งก็อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อความสะดวก
ขั้นตอนในการจัดไฟแนนซ์รถยนต์
ติดต่อผู้ขายรถยนต์ และบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์ ทางบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์ จะมีพนักงานตลาดทำรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เช่าซื้อ เพื่อจัดส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครดิต หรือเช็กเกอร์ของบริษัทไฟแนนซ์ตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครดิตจะส่งให้ทางบริษัทพิจารณาอนุมัติ เมื่อผลการพิจารณาว่าเครดิตผ่านแล้ว ทางบริษัทก็จะอนุมัติให้ผู้ซื้อ สามารถเช่าซื้อรถยนต์ได้ ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 7 วัน
เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการเช่าซื้อ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เช่าซื้อ
- เอกสารจากผู้ค้ำประกัน หนังสือค้ำประกัน
- สัญญาเช่าซื้อ เอกสารประกอบสัญญาเช่าซื้อ ในการเช่าซื้อรถนั้น ในบางครั้งเมื่อผู้เช่าซื้อไม่สามารถชำระเงินค่างวดตามกำหนดสัญญาได้ ทางบริษัทอาจจะส่งเจ้าหน้าที่ หรือเอกสารมาเพื่อเตือนการชำระเงินค่างวด และถ้าหากยังไม่ชำระตามที่บริษัทได้แจ้ง ก็อาจจะมีการส่งเจ้าหน้าที่มาทำการยึดรถ ซึ่งนอกจากกรณีนี้แล้วทางบริษัทไฟแนนซ์อาจจะทารยึดรถได้ในกรณีต่อไปนี้
- ขายรถยนต์ไปโดยมิแจ้งให้แก่บริษัทไฟแนนซ์ทราบ และมีการค้างค่างวดไว้
- ผู้ค้ำประกันมีการติดต่อขอถอนค้ำประกัน
- ผู้เช่าซื้อมีการย้ายภูมิลำเนาโดยมิได้แจ้งให้บริษัทไฟแนนซ์ทราบ